The Hunger Games 2 ชื่อตอน Catching Fire เป็นหนึ่งในหนังที่รอดูตั้งแต่ดูภาค 1 จบใหม่ๆ เลย เพราะภาค 1 ทำได้ค่อนข้างดี ชอบคาแรกเตอร์ของนางเอกที่เป็นคนกล้าหาญ กล้าคิดกล้าทำ ไม่อ่อนแอรอให้พระเอกมาช่วย นอกจากฉากต่อสู้สุดมันส์ในเกมล่าชีวิตแล้ว เรื่องนี้ยังแฝงเนื้อหาเกี่ยวกับการเมืองไว้อีกด้วย (แล้วก็มาเห็นชัดตอนภาค 2 นี่แหละ)
เรื่องย่อ
เมื่อ แคทนิส (เจนนิเฟอร์ ลอว์เรนซ์) และ พีตา (จอช ฮัทเชอร์สัน) เดินทางกลับสู่เขต 12 ในฐานะผู้ชนะเกมล่าชีวิตครั้งที่ 74 อย่างไรก็ตามประธานาธิบดีสโนว์ ที่พบว่าถูกกลุ่มคนเล็กๆท้าทายอำนาจ ตัดสินใจที่จะจัดเกมล่าชีวิตครั้งที่ 75 ด้วยการนำอดีตผู้ชนะจากทั้ง 12 เขตมาต่อสู้กัน ซึ่งก็รวมถึงสองตัวแทนคนสำคัญ ฟินนิก โอแดร์ (แซม คาฟลิน) และ โจแฮนน่า เมสัน (จีน่า มาโลน) ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้เอง ก็กลายเป็นชนวนครั้งสำคัญที่จะเปลี่ยนแปลงพาเน็มไปตลอดกาล..
ภาคนี้นางเอกสวยขึ้นเยอะ
//ไม่ใช่ประเด็น
---ต่อไปนี้อาจมีการสปอย โปรดใช้วิจารญาณ---
เนื้อเรื่องจะเริ่มจริงจังมากขึ้น และเริ่มเผยประวัติของอดีตผู้ชนะในเกมล่าชีวิตที่ยังมีชีวิตอยู่ แต่ละคนดูมีประสบการณ์มาก ที่ชอบในหนังก็คือ ฉากตอนที่ทำการฝึกซ้อม ในภาคที่ 1 ห้องฝึกซ้อมจะเป็นห้องดูธรรมดาๆ มีอุปกรณ์ฝึกซ้อม มีที่ซ้อม เพราะเด็กจากแต่ละเขตจะต้องมาเข้ารับการอบรมเกี่ยวกับการต่อสู้แบบนับหนึ่ง ยกเว้นพวกเขตที่มีประสบการณ์มาแล้ว แต่ภาคนี้ เพราะแต่ละคนเคยเป็นผู้ชนะในเกมนี้มาแล้ว เป็นผู้ใหญ่ๆ ทั้งนั้น ห้องฝึกซ้อมเลยดูหรูหรา ไฮโซ มีเครื่องจำลองคู่ต่อสู้แบบ 3 มิติ และนางเอกเราก็โชว์เหนือจนใครๆ ก็อยากได้มาร่วมทีม
ในภาคนี้ แคทนิสประกาศแต่งงานกับพีตาแล้วด้วย เพราะความจำเป็น ถูกสโนว์ข่มขู่ว่าหากไม่ให้ความร่วมมือ ครอบครัวของแคทนิสจะมีอันตราย ทั้งสองเลยต้องเล่นเป็นคู่รักกันต่อไป พีตาผู้เสียสละก็ยอมทุกอย่างเพื่อนางเอก ทั้งที่ก็รู้ว่านางเอกไม่ได้มีอารมณ์รักใครอะไรด้วยเลย เป็นพระเอกแสนดีที่น่าสงสารอะไรเเบบนี้
สนามแข่งคราวนี้เป็นป่าเขตร้อน
ชุดเลยต้องคล่องตัวและระบายอากาศได้ดี
และจากที่ประธานาธิบดีจัดการแข่งมาเพื่อให้ฆ่ากันเอง ก็กลายเป็นว่าอดีตผู้ชนะทั้งหลายร่วมมือกันเพื่อจะเอาชนะแผนการของสโนว์ ฉากตอนท้ายที่แคทนิสยิงลูกธนูออกไปทำลายท้องฟ้าของเกม ทำให้เกมจำลองถูกทำลายและเพดานก็พังลงมา กลายเป็นว่าเกมล่าชีวิตที่เล่นกันอยู่นั้นเป็นแค่ฉากจำลองในสถานที่ๆ หนึ่งเท่านั้น ทำให้เรารู้สึกว่าการทำลายเกมของนางเอกนั้นเหมือนเป็นการทำลายพันธะ ข้อผูกมัดต่างๆ ที่นางเอกต้องแสร้งทำมาตลอดตั้งแต่เริ่มเรื่อง และเปลี่ยนจากการยอมจำนนมาเป็นการปฏิวัติแทน ตอนสุดท้ายมีหักมุมให้คนดูประหลาดใจเล็กน้อย ว่า เอ๊ นี่เราโดนคนๆ นี้หลอกตั้งแต่เริ่มเรื่องเลยหรือนี่
และจากเมื่อก่อนที่เจ้าชายไปช่วยเจ้าหญิงที่ถูกปีศาจลักพาตัวไป สมัยนี้มันเอาท์ไปแล้ว ต้องเป็นนางเอกไปช่วยพระเอกที่ถูกลักพาตัวไปต่างหาก จินตนาการว่าพีตาคือเอเลนในเรื่องไททัน
เนื้อเรื่องดำเนินเข้าสู่การปฏิวัติสังคมเมืองใหม่ อาจจะเปลี่ยนแปลงไปให้ทุกคนเท่าเทียมกันซึ่งเป็นเรื่องยาก ดูจากนิสัยสุดโต่งของประชากรในเซนทรัลแล้ว พวกเขาคงพอใจกับชีวิตแบบนี้และไม่มีทางอยากกลับไปตกต่ำกว่าเดิมแน่
รอติดตามภาค 3 ค่ะ 



ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น