วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

หนังแนวใหม่ สไตล์ พี่เจ้ย อภิชาติพงศ์

วันเสาร์ที่ผ่านมา ดาดฟ้ามีเดียก็จัดกิจกรรม Untitle for Film โปรแกรมในวันนั้นก็จะเป็นการฉายหนังสั้นของ พี่เจ้ย อภิชาติพงศ์ วีระเศรษฐกุล เจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง 'ลุงบุญมีระลึกชาติ' ที่ได้รับรางวัลปาล์มทองคำ เทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ ครั้งที่ 63 หลังจากจบโปรแกรมหนังก็จะมีพูดคุยเกี่ยวกับการทำงานของพี่เจ้ย เป็นแนวทางการศึกษาให้กับละอ่อนมีเดียปี 1 หน้าตาใสซื่อ (ตอนที่ดูหนังก็หน้าซื่อตาใส ดูไม่รู้เรื่อง ถถถ) 





โปสเตอร์หนังเรื่อง ลุงบุญมีระลึกชาติ (Uncle Boonmee Who Can Recall His Past Lives) 


แต่ที่ไปดูวันเสาร์ไม่มีการฉายหนังเรื่องลุงบุญมีนะคะ 
คาดหวังกันว่าเราจะมารีวิวหนังเรื่องนี้ล่ะสิ อิอิ
(ใครคาดฟระ)





                 อันนี้เป็นโปรแกรมการฉายหนัง เป็นหนังสั้นที่พี่เจ้ยได้รับทุนจากต่างประเทศและทดลองสร้าง บางเรื่องดูแล้วไม่เข้าใจเลยว่าหนังต้องการจะสื่ออะไร ซึ่งพี่เจ้ยก็ได้พูดในช่วงพูดคุยแล้วว่า 'ที่ดูไม่เข้าใจน่ะถูกต้องแล้ว เพราะหนังแบบนี้ไม่ได้สร้างมาเผื่อให้คนดูเข้าใจ'

แสดงว่าเราถูกแล้วสินะที่ดูไม่รู้เรื่อง
เย้ !

                 ที่รู้เรื่องที่สุดเห็นจะเป็นเรื่อง 'บ้านผีสิง' หรือ 'Haunted Houses' ดูตอนแรกๆ แล้วตลกมาก ตัวละครในหนังแสดงท่าทางเหมือนตัวละครในละครหลังข่าวที่เรามักจะเห็นกันบ่อยๆ จำพวกคุณหญิงคุณนาย สามีนอกใจไปมีเมียน้อย ภรรยาหลวงป่วยใกล้ตาย พอดูซักพักเราก็จะเริ่มเห็นว่า อ้าว มีการเปลี่ยนตัวแสดงนี่นา ในหนังก็จะยังเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับละครอยู่ แต่นักแสดงจากรุ่นคุณลุงคุณป้าก็กลายไปเป็นรุ่นคุณตาคุณยาย โดยที่บทก็ยังแสดงเป็นคุณหญิงคุณนายในละครกันอยู่ 

                 พี่เจ้ยได้พูดถึงแนวคิดในเรื่องนี้ว่า เวลาละครหลังข่าวออกทีไร บ้านทุกบ้านก็จะพากันจดจ่ออยู่หน้าจอโทรทัศน์ บ้านทุกหลังก็จะเงียบเหมือนบ้านผีสิง และที่เปลี่ยนตัวนักแสดงไปเรื่อยๆ นั้น ก็เพื่อสื่อว่าบางทีเราที่กำลังดูละครอยู่ ก็จะชอบสมมุติตัวเองว่าเป็นตัวเอกอยู่ในละครเรื่องนั้น กำลังแสดงละครเรื่องนั้นอยู่นั่นเอง

หนังแบบนี้ในไทยคงจะหาทุนช่วยยาก เป็นอีกครั้งที่เราได้เห็นถึงข้อจำกัดของการหาทุนสร้างหนังในเมืองไทย ถ้าไม่ใช่หนังในกระแสที่จะทำรายได้มหาศาล หรือเป็นหนังแนวประวัติศาสตร์ เพิ่มพูนความรู้ ก็ไม่ค่อยจะมีผู้สนับสนุน ต่างจากของต่างประเทศที่มักจะให้ทุนสร้างหนังได้โดยไม่เกี่ยงประเภท ขอแค่ทำตามเงื่อนไขที่เขาให้มาเท่านั้น

ถ้าเมืองไทยเปิดกว้างมากขึ้นอีกหน่อย เราก็คงจะได้เห็นหนังดีๆ ที่นำเสนอแนวคิดที่น่าสนใจเข้ามาในวงการภาพยนตร์ไทยมากขึ้น เป็นที่น่าสงสัยว่าต้องรออีกกี่ปีกันหนอ กว่าจะถึงวันที่สังคมไทยจะเปิดกว้างแบบนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น